คาโอรุ มิโตมะ

“คล็อปป์” ตำหนิแข้งลิเวอร์พูลไม่มีใครช่วย เทรนท์ รับมือกับ “มิโตมะ”

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของ ลิเวอร์พูล มองว่า เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้รับความช่วยเหลือ
จากเพื่อนร่วมทีมน้อยเกินไป ในการต้องต่อกรกับ คาโอรุ มิโตมะ ปีกตัวจี๊ดของ ไบรท์ตัน

เกมเมื่อคืนที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ต้องจาดป้ายในศึกเอฟเอ คัพ ไว้เพียงรอบที่ 4 หลังบุกไปแพ้ให้กับ ไบรท์ตัน 1-2 โดยที่ในเกมนี้หนึ่งนักฟุตบอล
ที่ทำผลงานได้ อย่างเยี่ยม คงหนีไม่พ้น มิโตมะ ที่นอกเหนือจากที่จะ
ยิงประตูชัย ในช่วงทดเวลา บาดเจ็บแล้ว แข้งชาวญี่ปุ่น ยังทำหน้าที่ป่วนปั่นเกมรับฝั่งขวา ของลิเวอร์พูลได้ตลอดทั้งเกม

หลังจบเกม คล็อปป์ ได้ให้สัมภาษณ์ หลังเกมว่า อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้รับการสนับสนุน จากเพื่อนร่วมทีมน้อยเกินไป ต่างกันทางฝั่งของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่มักมีเพื่อนคอยมาซ้อนอยู่เสมอ

“ฝั่งซ้ายร็อบ โบ้ยังโอเค เพราะพวกเราช่วยเขา แต่อีกฝั่งหนึ่ง เทรนท์ ไม่ได้รับการช่วยเหลือมากนัก”

“มิโตมะ เล่นดีมาก ดังนั้น มันจึงเป็นงานหนัก
เราสามารถป้องกัน ทั้งสองประตูที่เสีย ได้ดียิ่งกว่านี้ ลูกแรกมันแฉลบก็จริง แต่พวกเราน่าจะบล็อคลูกยิงได้”

“มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดี เมื่อเวลาผ่านไปเราอาจเห็นข้อดีบ้าง แต่เราต้องการเข้ารอบ ยังไงก็ต้องขอ แสดงความยินดีกับ ไบรท์ตัน ด้วย”

นอกจากนี้ ยังมีสถิติ ออกมาอีกว่า มิโตมะ เลี้ยงผ่านผู้เล่น ลิเวอร์พูลได้ถึง 10 ครั้งในซีซั่นนี้รวม ทุกรายการ ซึ่งมากกว่านักเตะคนอื่น ๆ ในลีก และจำนวนครึ่งหนึ่งคือากรเลี้ยงผ่าน เทรนท์

คล็อปป์ ตำหนิแข้งลิเวอร์พูล

รู้จัก “มิโตมะ” เจ้าชายแห่งคานางาวะ ผู้ปลิดชีพเครื่องจักร สีแดงน้ำตาร่วง

ยังช็อกตาค้าง ไม่หายกับเกม ช่วงค่ำเมื่อวันอาทิตย์ที่ ที่ผ่านมา กับเกมรอบ 4 ฟุตบอลถ้วย ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งเมืองผู้ดีอังกฤษ “เอฟเอ คัพ”
เพราะว่าแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล บุกไปพ่าย ไบรท์ตัน 1-2 แถมโดนประตูช่วงนาทีบาปทดเจ็บท้ายเกมอีก
เรียกได้ว่า เด็กหงส์ทุก กลุ่มเหล่าใน ดินแดนสยามเมืองยิ้ม คงรู้สึกกระอัก เลือดตาเกือบจะกระเด็น เนื่องจากว่า
เกมมีทีท่าจะจบด้วยผลเสมอ รวมทั้งไปรีเพลย์ กันใหม่ที่แอนฟิลด์ แต่มิวายถูกนักฟุตบอลชาวอาทิตย์อุทัยอย่าง คาโอรุ มิโตมะ โชว์เทคนิคอันเลือดเย็นซัดประตูชัย

ดาวเตะสาย เลือดซามูไรวัย 25 ปี กลายเป็นที่รู้จัก แก่บรรดาแฟนบอลลิเวอร์พูล มากขึ้นไปอีก แม้ก่อนหน้านี้จะรู้จักกันพอสังเขปอย่างดีอยู่แล้ว
ว่าแข้งญี่ปุ่น รายนี้ฝีเท้าช่างจัดจ้าอีกทั้งสปีดต้น ความเร็วสายฟ้า ความกระฉับกระเฉงที่พลิ้วไหวสูงเหลือเกิน

หากไม่เชื่อลองไปถาม เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ดูได้ !

เพียง ฤดูกาลแรก ในพรีเมียร์ลีกของ มิโตมะสามารถปรับตัวได้ไวกับสไตล์บอลอังกฤษ โชว์ผลงานฉลาดไม่เกรงกลัวใคร
งัดความสามารถศาสตร์ ลูกหนังในตัวออกมาหมดเปลือก นี่คือความเป็นใจนักสู้ เลือดญี่ปุ่นขนานแท้ในวงการฟุตบอล จนกระทั่งเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก

คาโอรุ มิโตมะเป็นที่รู้จักของแฟนบอล ชาวไทยนับตั้งแต่ Siamsport ได้ซื้อลิขสิทธิ์ ถ่ายทอดสด ฟุตบอล เจลีก ประเทศญี่ปุ่น
และถ่ายคู่ที่คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ลงสนามอยู่บ่อย และก็ด้วยฟอร์มที่เด่น เหลือเกินของเขา ทำให้เป็นที่รู้จักได้ไม่ยากเลย

“มิโตมะ” เกิดที่ “คาวาซากิ” นครที่อยู่ในจังหวัด คานางาวะ ประเทศประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 20 เดือนพฤษภาคมปี 1997 และเริ่มเข้าสู่เส้นทางฟุตบอลอคาเดมี่กับ ซากินุมะ เอสซี รวมทั้ง ถูกคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ดึงตัวมาในช่วงอายุ 10 ขวบ แล้วก็อยู่สโมสรมาตั้งแต่ปี 2007-2015

กระทั่งปี 2016 มิโตมะได้เข้าไปเรียน ที่มหาวิทยาลัย ทสึคุบะ ในจังหวัดอิบารากิ ซึ่งเป็นสถาบัน นอกเหนือจากการศึกษาแล้ว ยังเป็นมหาวิทยาลัย ฟุตบอลชั้น นำของประเทศญี่ปุ่นด้วย ก่อนที่จะจบการศึกษา ในปี 2019 มิโตมะได้ทำวิทยานิพนธ์ เกี่ยวกับการเลี้ยงลูก ฟุตบอลด้วย เรียกได้ว่าเอาจริง เอาจังกับเรื่องฟุตบอล เหลือเกิน

หลังจาก สำเร็จการศึกษา มิโตมะได้เดบิวต์ลีก สูงสุดของประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก โดยการคัมแบ็ก เล่นให้กับคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ในปี 2020 และก็แค่เพียงปีเดียว เขาได้จารึก ชื่อกับพลพรรค “โลมามหากาฬ” ด้วยการคว้าแชมป์เจลีก 2020 ทันที โดยมิโตมะ ลงสนามไป 30 นัด ยิง 13 ประตู กับ 13 แอสซิสต์

เท่านั้น ไม่พอในปีเดียวกันยังมีส่วนช่วยพาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์อีกถ้วยคือ “เอ็มเพอเรอร์ คัพ” ก็เลยทำให้มิโตมะ มีชื่อติดทีมเหมาะสมที่สุดเจลีก ประเทศญี่ปุ่น ปี 2020 โดยฝากผลงานลงสนามในซีซั่น 2020 รวมทุกรายการไปทั้งหมด 37 นัด ยิงไป 18 ประตู กับ 14 แอสซิสต์

ไม่มีใครช่วย เทรนท์ รับมือกับ มิโตมะ

แชมป์สุดท้ายของมิโตมะ กับฟรอนตาเล่

คือการคว้าถ้วยฟุตบอล “ฟูจิ ซีร็อกซ์ ซูเปอร์คัพ 2021” หรือศึกแชมป์ชนแชมป์ กระทั่งวันที่ 11 สิงหาคมปี 2021 สโมสรไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ทีมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตัดสินใจคว้าตัว “มิโตะมะ” เข้ามาร่วมทีมด้วยสัญญาระยะยาว 4 ปี

โดยขุนพล “นกนางนวล” ถูกส่งไปเล่นลีกดิวิชั่น 2 ของเบลเยียมกับ รอยัล ยูเนียน แซงต์-จิลอยส์ ในสัญญายืมตัวตลอดฤดูกาล 2021-22 เพื่อปรับตัวเข้ากับฟุตบอลยุโรป ก่อนจะฝากผลงานลงสนาม 21 นัด ยิงไป 5 ประตู กับ 4 แอสซิสต์

ด้วยฟอร์ม อันยอดเยี่ยม ไบรท์ตัน ก็เลยได้จัดการดึงตัว กับสู่ต้นสังกัดบู๊ศึก พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2022-23 ทันที จนกระทั่งตอนนี้ เขาลงเล่นในพรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 14 นัด ทำไป 4 ลูก กับ 1 แอสซิสต์ แถมยิงครบ ทุกรายการทั้ง ฟุตบอลถ้วยคาราบาว คัพ (3 นัด 1 ลูก) รวมทั้งเอฟเอ คัพ (2 นัด 1 ประตู 1 แอสซิสต์) 1 ตุงที่ยิงได้ก็มา จากการยิงใส่ “หงส์แดง” นั่นเอง

ฟุตบอลโปรตุเกส ใบขาว

ที่มาแจก ใบขาว ครั้งแรกในวงการบอล มีโอกาสเห็นในพรีเมียร์ลีกหรือไม่

ถือเป็นครั้งแรก ในประวัติศาสตร์กับ ใบขาว ในวงการฟุตบอล ซึ่งเกิดขึ้นในวงการ ฟุตบอล โปรตุเกส โดยใบนี้มีที่มาอย่างไร รวมทั้งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ในพรีเมียร์ลีก หรือไม่

ครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ ฟุตบอล เกิดขึ้นในฟุตบอล ถ้วยหญิง ของประเทศโปรตุเกส เป็นเกมระหว่าง เบนฟิก้า เจอกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เมื่อวันเสาร์ที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา สาเหตุที่ทำให้ คาตาริน่า แคมปอส ผู้ตัดสินในเกมนี้ แจกใบขาว ในนาทีที่ 45 เป็นจังหวะที่ เบนฟิก้า นำอยู่ 3-0 และมีนักเตะ รายหนึ่งในสนาม มีอาการบาดเจ็บ จนถึงทำให้ทีมแพทย์ของทั้งยัง 2 ทีมนั้นวิ่งลงไปในสนามแล้วก็ช่วยดูอาการของนักเตะรายนี้

ถึงแม้พวกเขา จะอยู่กัน คนละทีมก็ตาม ซึ่งหลังจากผู้ตัดสิน มอบใบขาว เพื่อเป็นการยกย่อง แพทย์ทั้ง 2 คนที่ว่าแล้วนั้น บรรดาแฟนบอลต่าง ก็ตบมือแบบดังลั่นสนามให้กับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย

โดยที่ผ่านมาแฟนบอล ทั้งโลกนั้น จะคุ้นเคยกับการแจกใบแดง และใบเหลือง สำหรับการฟาวล์ รวมทั้ง การกระทำผิด ในระหว่างการแข่งขัน ซึ่งถูกนำมาใช้เมื่อ 50 ปีที่แล้วในฟุตบอลโลกปี 1970

ศึกฟุตบอลหญิง ลีกโปรตุเกส

“ใบขาว” หรือ ใบที่ทาง สหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกส

ริเริ่ม และก็เพิ่มเข้ามา เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อเป็นการยกย่อง พฤติกรรมเชิงบวก ที่น่าชื่นชมระหว่างเกม การแข่งขัน ซึ่งจุดประสงค์ของการ เพิ่มใบขาวนี้เข้ามา เพื่อหวังให้วงการฟุตบอล มีการปรับปรุงแก้ไข เรื่องศีลธรรมหรือศีลธรรมไปในทางที่ดีขึ้นนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม การนำใบขาว เข้ามาในวงการ ฟุตบอล ยังไม่แพร่หลายแต่ ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการแนะนำใหม่ๆในวงการฟุตบอล

ขณะเดียวกันผล กับการแจกใบขาว ก็มีอีกทั้งผลจากการบวกรวมทั้งลบ โดยแฟนบอลหลายคน ต่างออกมาชื่นชน ขณะที่ ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งกับบอกว่า “ไม่มีความหมายอะไรเลยเท่าที่ฉันสามารถบอกได้”

ก่อนหน้านี้ มิเชล พลาตินี สมัยที่เคยตำแหน่ง ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลยุโรปหรือ ยูฟ่า เคยคิดจะมีการนำใบขาว มาใช้ในการลงโทษ ผู้เล่นที่ประท้วง การตัดสินด้วยท่าทีรุนแรง ให้ออกไปนั่งข้างสนาม 10 นาที แต่ไอเดียกลับถูกปัดตกไป

อย่างไรก็ตาม เดลี่ เมล สื่อดังในอังกฤษ เห็นว่า ในพรีเมียร์ลีก คงเป็นไปได้ยากที่จะมองเห็นในลีกสูงสุด ของอังกฤษ ด้วยเหตุว่าเวลานี้ยังเป็นเพียงแต่ความคิดริเริ่มจากทาง โปรตุเกสเท่านั้น และก็คงต้องจับตาดู ว่าจะส่งผลออกมาแบบใดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ฟุตบอลโปรตุเกส

ไขข้อข้องใจ : ใบขาวคืออะไร? หลังถูกใช้ ครั้งแรกในเกม สปอร์ติง – เบนฟิก้า

ศึกฟุตบอลหญิง ลีกโปรตุเกส ผู้ตัดสินมีการแจกใบขาว เป็นครั้งแรกของโลก แล้วมันคืออะไร? มีผลอย่างไรกับเกม?

นับตั้งแต่ศึกฟุตบอลโลก 1970 แฟนบอลทั่วทั้งโลกคุ้นเคย กับการที่ ผู้ตัดสินสามารถ แจกใบแดง หรือใบเหลือง เพื่อเป็นการลงโทษนักฟุตบอล อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ทุกคนจะได้รู้จัก ‘ใบขาว’ อีกหนึ่งหน้าที่ ของผู้ตัดสิน ในสนาม

ในเกมฟุตบอลหญิง ลีกโปรตุเกสระว่าง เบนฟิก้า พบ สปอร์ติง ลิสบอน เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่ผู้ตัดสินใช้’ใบขาว’ในการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ในตอนที่เจ้าถิ่นออกนำห่างถึง 3-0 เมื่อมีนักเตะรายหนึ่งบาดเจ็บและก็อาการดูน่าเป็นห่วง จนกระทั่งทำให้ทีมแพทย์ของอีกทั้ง เบนฟิก้า รวมทั้ง สปอร์ติ้ง พร้อมใจกันวิ่งลงไปในสนามและช่วยดูอาการของแข้งรายดังกล่าวโดยที่ไม่มีการแบ่งแยก ก่อนที่อาการของแม่เนื้ออ่อนรายดังกล่าวจะดีขึ้น

จากเหตุการณ์นี้ ทำให้ผู้ตัดสินแจกใบขาว ให้กับเจ้าหน้าที่ของทั้งสองทีม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในวงการฟุตบอลอาชีพ เพื่อเป็นยกย่องน้ำใจและก็สปิริตของทุกคนที่เกี่ยวข้อง

หลังจากผู้ตัดสินชูใบขาว แฟนบอลทั้งยังสนามก็พร้อมใจกันลุกขึ้นปรบมือให้กับเจ้าหน้าที่ ชุดดังกล่าว

ดังนี้ ใบขาว คือสิ่งที่ฟีฟ่าเพิ่งเพิ่มเข้ามาเมื่อไม่นาน โดยจะถูกใช้เมื่อมีการกระทำ ที่น่ายกย่องเกิดขึ้นระหว่าง การแข่งขัน จุดประสงค์ เพื่อต้องการให้ วงการฟุตบอล จะมีการปรับปรุง เรื่องจริยธรรม หรือศีลธรรมให้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตามความมองเห็น ของแฟนบอล ในโลกโซเชียล แตกออกเป็นทางฝั่ง มีทั้ง ที่ชื่นชมและสนับสนุน การแจกใบขาว ตามจุดประสงค์ของฟีฟ่า แต่ขณะเดียวกัน ก็มีแฟนบอล ที่มองว่าเป็นเรื่องไม่มีประโยชน์ กับวงการ ฟุตบอล

เทนนิส

ที่เดียวจบ! คุณพ่อแจงละเอียดทำไม “เทนนิส” ต้องลงแข่งกีฬามหาวิทยาลัย

คุณพ่อของ “เทนนิส” พานิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดดีกรีแชมป์โอลิมปิก ออกมาชี้แจง หลังลูกสาวเลือกลงแข่งขันใน กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย

กลายเป็นประเด็นดราม่า ไปแล้วสำหรับ น้องเทนนิส หลังจากที่เจ้าตัวเลือกที่จะลงทำการ แข่งขันเทควันโดในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 48 “ดอกจานบ้านเชียงเกมส์” ที่จังหวัดทิศเหนือธานี ในนามผู้แทนของ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี พร้อมกับคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ

หลังจากนั้นก็มีแฟนกีฬาบางส่วนตั้งคำถามถึงความเหมาะสมที่ นักกีฬาทีมชาติ ทั้งยังเป็นเจ้าของเหรียญทองกีฬาโอลิมปิกครั้งล่าสุด เลือกที่จะลงสนามในกีฬาระดับประเทศ

ล่าสุด นายสิริชัย วงศ์พัฒนกิจ คุณพ่อของนักเทควันโดสาววัย 25 ปี ได้ออกมาโพสต์อธิบายผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงประเด็นดังกล่าวเอาไว้ว่า

“มีแฟนคลับบางท่านถามมาว่า​ เพราะเหตุไรน้องเทนนิส​ ได้แชมป์โอลิมปิก​ ได้แชมป์โลก​ แชมป์เวิลด์กรังด์ปรีซ์ แชมป์แกรนด์สแลม ไ​ด้แชมป์มาทั่วทุกมุมโลกแล้ว​ เพราะเหตุใดมาลงแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย​ ควรจะให้นักกีฬาคนอื่นๆได้แชมป์บ้าง​ การแข่งขันภายในประเทศ น้องเทนนิส​ ไม่เคยลงแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย​และกีฬาแห่งชาติ​ มานานหลายปีแล้ว​ เหตุผลที่เพราะอะไรน้องเทนนิส​ มาลงแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัย​แห่งประเทศไทย มีดังนี้”

“1.เพื่อตอบแทนบุญคุณ ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี​ ตามข้อตกลงจะต้องลงแข่งขัน ในนามมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ให้ทุนเรียนปริญญาโท​-เรียนปริญญาเอก”

“2.เพื่อจะได้สิทธิ์ ในการไปแข่งขันกีฬา​ มหาวิทยาลัยโลก​ ที่เมืองเฉินตู​ ประเทศจีน​ วันที่​ 29 กรกฎาคม​ -​ 4​ สิงหาคม 2566​ ซึ่งจะต้องลงแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัย แห่งประเทศไทยก่อน​ ชนะ​แล้ว​ ก็เลยจะได้สิทธิ์ไปแข่งขัน กีฬามหาวิทยาลัยโลก​ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย”

“3.ทีมโค้ชพิจารณา อนุญาตให้สามารถลงแข่งขัน ได้ตามความเหมาะสม​ ใน​ 1 ปี​ จะลงแข่งขันได้ประมาณ​ 7-8 รายการ​ จากทั้ง​หมด​ 14-15 รายการ”

“ขอขอบคุณทุก ๆ กำลังใจที่ส่งมาให้น้องเทนนิส​มาก ๆ ครับ”

นักเทควันโดดีกรีแชมป์โอลิมปิก
ประวัติ‌ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดเหรียญทอง โอลิมปิก 2020

‌ข้อมูล‌ส่วนตัว
ชื่อ‌ ‌:‌ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ
ชื่อเล่น : เทนนิส
เกิด‌ ‌:‌ 8 สิงหาคม 2540
อายุ‌ ‌:‌ ‌24 ‌ปี‌ ‌
ภูมิลำเนา ‌:‌ ‌จ. สุราษฏร์ธานี ‌
ส่วน‌สูง‌ ‌:‌ ‌173 เซนติเมตร ‌

พาณิภัค เติบโตมาในครอบครัวนักกีฬา โดยคุณพ่อเป็นอดีตนักกีฬาทั้งยังฟุตบอลและก็ ว่ายน้ำ ส่วนคุณแม่เป็นอดีตนักว่ายน้ำ ทำให้ผู้สืบสกุลของครอบครัวนี้ทั้งยัง 3 คนมีชื่อเล่นเป็นชนิดกีฬาทั้งหมด ได้แก่ พี่สาวคนโต “โบว์ลิ่ง” นาวาอากาศโทหญิง กรวิกา วงศ์พัฒนกิจ พี่ชายคนกลาง “เบสบอล” ศราวิน วงศ์พัฒนกิจ และก็น้องสาวคนสุดท้อง “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ

พาณิภัค เริ่มเล่นเทควันโดตั้งแต่อายุ 9 ขวบ โดยได้แรงบันดาลใจจากพี่ชายคนกลาง ก่อนที่ พาณิภัค จะค่อย ๆ พัฒนาฝีมือจนได้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 27 ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ด้วยวัยเพียง 13 ปีเท่านั้น แถมยังคว้าเหรียญทองในรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 42 กก. ได้อีกด้วย ทำให้สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยมองเห็นแวว รวมทั้งเรียกตัวเข้ามาคัดตัวเข้าสู่การเป็นนักเทควันโดเยาวชนทีมชาติในเวลาต่อมา

คุณพ่อ น้องเทนนิส

ในระดับเยาวชน พาณิภัคทำผลงานได้อย่างสะดุดตา โดยกวาดแชมป์ระดับนานาชาติ มาครองได้นับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ยูเอส โอเพ่น, แชมป์โคเรีย โอเพ่น, แชมป์เอเชีย แถมยังเป็นผู้เล่นเยาวชนที่ได้ไปประชันความสามารถกับนักกีฬารุ่นใหญ่ในศึกซีเกมส์ 2013 ที่เนปิดอว์ ประเทศเมียนมา ซึ่งเธอก็สามารถคว้าเหรียญเงินได้ด้วยวัยเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น

ยิ่งกว่านั้น พาณิภัค ยังมีผลงานชิ้นโบแดง ระดับเยาวชนคือ เหรียญเงินเอเชียน ยูธ เกมส์ 2013 รุ่นไม่เกิน 47 กก. หญิง ก่อนที่จะสร้างชื่อกระหึ่มคว้าเหรียญทอง ยูธ โอลิมปิก 2014 ที่หนานจิง ประเทศจีน ในรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 44 กิโลกรัม

จากนั้นด้วยวัยและความเก่งกาจที่มากขึ้น พาณิภัค ก้าวขึ้นมาแข่งขันในรุ่นประชาชนอย่างเต็มตัว และก็ยังคงโชว์ฟอร์มร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่ากวาดแชมป์ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆมาแล้วแทบทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นแชมป์เอเชีย (2014,2016) เหรียญทองซีเกมส์ (2017,2019) เหรียญทองเอเชียน เกมส์ (2018) เหรียญทองกีฬามหาวิทยาลัยโลก (2017,2019) แล้วก็ที่สำคัญคือตำแหน่ง “แชมป์โลก” 2 สมัย คือรุ่น 46 กิโลกรัม ในปี 2015 และรุ่น 49 กิโลกรัม ในปี 2019

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายสำคัญที่ พาณิภัค กำลังไล่ล่าแล้วก็ต้องการทำให้สำเร็จให้ได้นั่นคือ “เหรียญทองโอลิมปิก” ซึ่งเป็นแชมป์เดียวที่คุณยังไม่เคยได้สัมผัส โดยก่อนหน้านี้ พาณิภัค เคยผ่านเวทีโอลิมปิกมาแล้วในปี 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ซึ่งเธอพลาดโอกาสเข้าไปลุ้นเหรียญทองอย่างน่าเสียดาย

พานิภัค วงศ์พัฒนกิจ
ในศึกโอลิมปิก 2016 รอบ 8 คนสุดท้ายรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กก.

พาณิภัค ทะลุเข้ามาเจอกับ คิมโซฮุย จากเกาหลีใต้ ซึ่งจอมเตะสาวไทยทำคะแนนนำอยู่ที่ 4-2 ในขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 4 วินาทีของยกสุดท้าย แต่กลับพลาดโดน คิมโซฮุย เตะเข้าหัวและก็พลิกเอาชนะไปได้อย่างน่าเจ็บใจ 6-5

อย่างไรก็ตาม “น้องเทนนิส” ยังพอมีโชคอยู่บ้างเมื่อ คิมโซฮุย ทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เธอได้กลับมาแข่งต่อในรอบแก้ตัว ก่อนจะเตะเอาชนะ จูลิสซา ดิเอซ (เปรู) รวมทั้ง อิตเซล มานจาร์เรซ (เม็กซิโก) คว้าเหรียญทองแดงโอลิมปิก 2016 มาครองได้สำเร็จ

สำหรับ “เหรียญทองแดงโอลิมปิก” นับว่าเป็นความสำเร็จที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายสูงสุด รวมทั้ง พาณิภัค เชื่อว่าคุณสามารถไปได้ไกลกว่านั้น ทำให้คุณยังคงมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองอย่างเต็มที่และไม่หยุดยั้ง เพื่อที่จะกลับมาแก้ตัวอีกทีใน โอลิมปิก 2020 “โตเกียว เกมส์” ที่ประเทศประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง พาณิภัค ถูกยกให้เป็นความหวังสูงสุดของกองทัพนักกีฬาไทยที่จะกระชากเหรียญทองมาครองในโอลิมปิกครั้งนี้

และก็ในที่สุด น้องเทนนิสก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง โดยสามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2020 มาครองได้สำเร็จ หลังจากเตะเอาชนะ อาเดรียนา เซเรโซ อิเกลเซียส ดาวรุ่งจากประเทศสเปน อย่างระทึกใจในรอบชิงชนะเลิศ ด้วยสกอร์ 11-10 คะแนน สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองแรกให้กับวงการเทควันโดไทยได้สำเร็จ เรียกได้ว่าเป็นนักเทควันโดเบอร์หนึ่งของโลกในรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เกร็ดนอกสังเวียน

พาณิภัค จบการศึกษาระดับชั้นประถม จากโรงเรียนอนุบาลสุราษฎร์ธานี จบม.ต้นจากโรงเรียนสุราษฎร์พิทยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี จบม.ปลายจากโรงเรียนเทพลีลา กรุงเทพมหานคร รวมทั้งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาแล้วก็การออกกำลังกาย

เดี๋ยวนี้ “เทนนิส” รับราชการ ยศเรืออากาศตรีหญิง ตำแหน่งนายทหารกีฬาสโมสรแล้วก็กิจกรรมพิเศษ แผนกกีฬาสโมสรและกิจกรรมพิเศษ กองการสโมสร กรมสวัสดิการทหารอากาศ สังกัดกองทัพอากาศ นอกจากนั้น ยังมีแชนแนลยูทูบของตัวเองในชื่อ PaNisPak Channel พานิสพัก ให้แฟนๆได้ติดตามกันอีกด้วย

ดาบิด เด เคอา

"เด เคอา" จ่อเปิดเงื่อนไขพิเศษรับค่าเหนื่อยเต็มๆ กับแมนยูฯ ก่อนขอลดลงเพื่ออยู่ต่อไป

18 เดือนนับแต่นี้ไป เด เคอา จะรับค่าเหนื่อยที่รับอยู่ปัจจุบันนี้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ก่อนจะขอลดลงเพื่อต่อสัญญาอยู่เป็นตำนานของทีมต่อไป

วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2566 ซัน สปอร์ต สื่อกีฬามีชื่อเสียงของอังกฤษ กล่าวว่า ดาบิด เด เคอาผู้รักษาประตูมือ 1 ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังจะขอเปิดใช้งานออปชั่นยืดสัญญากับทีมไปอีก 1 ปี ซึ่งจะทำให้สัญญาจะหมดลงในปี 2024

การเปิดสัญญาออปชั่นฉบับนี้ จะทำให้ เด เคอาจะรับค่าเหนื่อย 375,000 ปอนด์ต่ออาทิตย์ หรือราวๆ15 ล้านบาทไปจนกระทั่งสัญญาจะครบในช่วงหลังจบซีซั่น 2023-24 นั้นเอง ซึ่งมีแถลงการณ์ว่า เจ้าตัวพิจารณาจะขอลดค่าเหนื่อยลงในการต่อสัญญาฉบับใหม่ เพื่ออยู่กับทีมถัดไปหลังจากจบออปชั่นนี้

ซึ่งทาง เอริก เทน ฮาก ที่ปรึกษาของกองทัพ “ปิศาจแดง” ก็มีแผนการการตรงกับใจของเด เคอา ที่ต้องการให้เจ้าตัวทำสิ่งนี้เช่นกัน รวมทั้งหวังอยากจะเห็นแข้งรายนี้ลดค่าเหนื่อยเพื่ออยู่ช่วยทีมถัดไปอีกนาน ๆ ตราบที่เจ้าตัวยังอยู่ในตำแหน่งกุนซือ โดยสื่อคาดว่าสัญญาฉบับใหม่จะพูดจากันในช่วงหลังจบซีซั่นนี้

สำหรับ ดาบิด เด เคอาคือสมบัติชิ้นสุดท้ายจากยุคของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่อยู่กับทีมยาวนานมาจนถึงขณะนี้ โดยเจ้าตัวลงสนามรับใช้ “ปิศาจแดง” ไปทั้งหมด 513 นัด เสียไป 555 ประตู คลีนชีตได้ทั้งหมด 177 เกม ส่วนผลงานในซีซั่นนี้ลงตัวจริงครบทุกเกม ทั้งหมด 26 นัด เสียไป 26 ประตู คลีนชีตได้ 12 นัด

ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูมือ 1 ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เด เคอาลั่นเก๋าพอไม่สนเสียงวิจารณ์,ข่าวซุบซิบ

ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตู แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยว่าตนเองผ่านอะไรมามากพอจนไม่สนใจเสียงวิจารณ์หรือการคาดทายใจต่างๆนานา ที่เจอมาตลอดอาชีพ

เด เคอาย้ายจาก แอตเลติโก มาดริด มาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ปี 2011 ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากยอดผู้จัดการทีม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในสองฤดูกาลแรก แล้วก็ผ่านช่วงเวลาเลวร้ายต่างๆมานับครั้งไม่ถ้วน

เวลานี้ ผู้รักษาประตูชาวสเปน วัย 32 ปี ขยับเข้าใกล้สถิติคลีนชีตมากที่สุดของสโมสรเต็มทีแล้ว แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่เรื่องสัญญาปัจจุบันนี้ที่กำลังจะหมดอายุลงหลังจบฤดูกาลนี้

“ผมรู้สึกดีที่สุด กระปรี้กระเปร่ามากจริงๆที่ได้ช่วยทีม ผมฝึกได้ดี และก็รู้สึกเชื่อมั่นเต็มที่ เหมือนกับทุกคนในทีม ผมรู้สึกดีมาก และก็จะคงแบบนั้นต่อไป”

“ผมไม่ต้องแสดงผลงานอะไรให้มองเห็นอีกแล้ว ผมโชว์ฝีมือให้มองเห็นไปแล้วตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมทราบดีว่าผู้คนชอบที่จะบอก ผมคุ้นคุ้นชินแล้ว ผมแค่โชว์ฟอร์มให้ดีที่สุดเท่าจะทำได้ เพื่อช่วยทีมอย่างเต็มที่ตลอดเวลา”

“ผมผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมามากแล้ว ผมไม่ใส่ใจเรื่องพวกนั้นหรอก ผมมีสมาธิกับเกมของตน การฝึก และก็ทีมของผม” เด เคอากล่าว

ดังนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงเดินหน้าสนทนาเรื่องสัญญาใหม่กับ เด เคอาอย่างตลอด โดยรายงานจาก เดอะ ซัน กล่าวว่า ผู้รักษาประตูชาวสเปน ยินดีที่จะลดค่าว่าจ้างในสัญญาฉบับใหม่เพื่อต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสร

เด เคอา

ไม่แฟร์เลย “เด เคอา” ข้องใจเพราะอะไร? “แมนยูฯ” ต้องเล่นกลางสัปดาห์ แต่ “อาร์เซนอล” ได้พัก

“เด เคอา” มือกาวจอมหนึบชาวประเทศสเปน ข้องใจเพราะเหตุไร “แมนยูฯ” ต้องเล่นกลางสัปดาห์ แต่ “อาร์เซนอล” กลับได้พัก

วันที่ 19 ม.ค. 66 ควันหลงการแข่งขัน ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่ง “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเสมอ “อินทรีผงาด” คริสตัล พาเลซ 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม โดยทีมของ เอริก เทน ฮาก มีเพิ่มเป็น 39 คะแนน จากการลงสนาม 19 นัด ขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ส่วนทีมของ ปาทริค วิเอรา มีเพิ่มเป็น 23 คะแนน จากการลงสนาม 19 นัด อยู่ที่ 12 บนตารางคะแนน

หลังจบการแข่งขัน ดาบิด เด เคอาผู้รักษาประตูจอมหนึบชาวสเปน ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ คาเซมิโร มิดฟิลด์ตัวเก่งของทีม ที่โดนใบเหลือง กระทั่งทำให้สะสมใบเหลืองครบ 5 ใบ อดลงเจอกับ อาร์เซนอล โดยเขาคิดว่า แมนยูฯ เสียเปรียบ ที่ต้องลงเล่นในวันนี้ แต่อาร์เซนอลได้พัก แถมยังสูญเสียผู้เล่นที่เก่งที่สุดคนนึงของทีม ซึ่งอาจนำมาสู่ความพ่ายของทีมในวันอาทิตย์นี้ก็เป็นได้

เด เคอา กล่าวว่า “หนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของพวกเรา (คาเซมิโร) ไม่สามารถเล่นกับหนึ่งในทีมที่ดี ที่สุดของลีกตอนนี้ได้ ผมไม่เข้าใจเลยว่าเพราะเหตุไรพวกเราถึงต้องลงเล่นวันนี้ แต่พวกเขา (อาร์เซนอล) ไม่ได้เล่น มันสามารถสร้างความแตกต่างได้เลยนะในวันอาทิตย์ และก็การขาด คาเซมิโร เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ส่วนตัวสำหรับเรา”

สำหรับ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโปรแกรมบุกไปเยี่ยม “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์นี้ เวลา 23.30 น. ตามเวลาประเทศไทย

ลิเวอร์พูล

หนึ่งรายต่อแน่-ใครควรพอ ? 5แข้ง ลิเวอร์พูล หมดสัญญาซัมเมอร์นี้

เปิดชื่อ 5 นักเตะ ลิเวอร์พูล ที่จะหมดสัญญาในซัมเมอร์นี้ คาดมี 1 รายได้สัญญาใหม่ ส่วนอีกคน 50-50 ขณะที่ 3 รายที่เหลือถึงเวลาแยกทางกัน
สกาย เยอรมนี สื่อกีฬาเมืองเบียร์ รายงานข่าวสารว่า ลิเวอร์พูลจะยื่นสัญญาใหม่ให้กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กองหน้าประสบการณ์สูง ทีมชาติบราซิล เพื่อรั้งตัวให้เล่นในถิ่น แอนฟิลด์ ไปจนถึงปี 2025

หัวหอกแซมบ้าวัย 31 ปี กำลังจะหมดสัญญากับ “หงส์แดง” ในช่วงซัมเมอร์นี้ เหมือนกับอีก 4 นักฟุตบอล หลังย้ายจาก ฮอฟเฟ่นไฮม์ มาอยู่กับทีมตั้งแต่ปี 2015

สำหรับ 5 นักเตะ ลิเวอร์พูล ที่จะหมดสัญญาในซัมเมอร์นี้ เป็นใครบ้าง รวมทั้งใครควรจะได้อยู่ต่อมีดังต่อไปนี้

1. อาเดรียน

อาเดรียน

อาเดรียน เป็นโกลมือสาม ของทีมต่อจาก อลิสซง เบ็คเกอร์ และ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ทำให้แทบ ไม่ค่อยได้เห็นเขาลงเล่นในช่วงหลัง

นายทวารชาวสแปนิช มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ปี 2019 รวมทั้งเป็นนักเตะที่แฟนบอล รักมากคนหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ได้แชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ปี 2019

อย่างไรก็ตาม ด้วยวัย 36 แล้ว ทำให้เจ้าตัวคงต้องการกลับไปแขวนถุงมือที่บ้านเกิด รวมทั้ง ลิเวอร์พูล ก็คงไม่ขวางทาง

โอกาสอยู่ต่อ : จากกันด้วยดี

2. โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่

โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ลิเวอร์พูล

ฟีร์มีโน่ ย้ายจาก ฮอฟเฟ่นไฮม์ มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ปี 2015 โดยลงเล่น ไปแล้วทั้งหมด 348 เกมในทุกรายการ ทำได้ 107 ประตู และ 78 แอสซิสต์

ดาวยิงบราซิเลียน เป็นนักฟุตบอลที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ส่งลงสนามมาก สุดนับตั้งแต่ที่ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน เข้ามาทำงานในถิ่น แอนฟิลด์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อทีม

โอกาสอยู่ต่อ : หากแม้ ฟีร์มีโน่ จะโรยราไปบ้าง แต่ก็ยังมีความสำคัญต่อทีม แล้วก็คงจะได้ต่อสัญญาออกไปอีก 2 ปี

3. นาบี เกอิต้า

นาบี เกอิต้า

กองกลางทีมชาติกินี วัย 27 ปี ย้ายจาก แอร์เบ ไลป์ซิก มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2018 ด้วยความคาดหวัง อย่างสูงจากบรรดา เดอะ ค็อป

อย่างไรก็ตาม เกอิต้า ยังไม่ได้ทำผลงานให้คุ้มค่าตัวกับที่ “หงส์แดง” ยอมจ่ายไปเมื่อ 5 ปีที่แล้วถึง 48 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,968 ล้านบาท)

นอกเหนือจากผลงานไม่ค่อยก็ดี เกอิต้า ยังมีปัญหาบาดเจ็บตาม รบกวนอย่างตลอดอีกต่างหาก ทำให้คงไม่ได้อยู่เล่นที่ถิ่น แอนฟิลด์ ต่อไปในซีซั่นหน้า

โอกาสอยู่ต่อ : ปิดฉากสัญญา

4. เจมส์ มิลเนอร์

เจมส์ มิลเนอร์ ลิเวอร์พูล

มิลเนอร์ เป็นนักฟุตบอลที่ คล็อปป์ ยกย่องอย่างมาก เนื่องจากว่ามีความเป็นมืออาชีพ และก็สามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่งตั้งแต่มาอยู่กับทีมเมื่อปี 2015

แม้วัย 37 ปีแล้ว แต่ มิลเนอร์ ยังแสดงให้มองเห็นสภาพความฟิตและก็สภาพร่างกาย ที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้บรรดารุ่นน้อง และ คล็อปป์ ก็อยากให้อยู่ช่วยทีมต่อไป

อย่างไรก็ตาม มิลเนอร์ อาจอยากหวนกลับไปเล่นให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมรัก หลังหมดสัญญากับ ลิเวอร์พูลในซัมเมอร์นี้

โอกาสอยู่ต่อ : 50-50 ขึ้นอยู่กับตัวนักเตะ

5.อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน

อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน

กองกลางชาวเมืองผู้ดีวัย 29 ปี เป็นนักฟุตบอลอีกรายที่ดูราวกับอยู่ในโรงหมอมากกว่าอยู่ในสนาม หลังล่ำลา อาร์เซน่อล มาอยู่กับ ลิเวอร์พูลเมื่อปี 2017

อนาคตของ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน กับ ลิเวอร์พูลคงจบแล้ว หลังเป็นตัวเลือก รองจากพวกดาวรุ่งทั้งยัง ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, เคอร์ติส โจนส์ และก็ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่

ลิเวอร์พูลจะไม่ต่อสัญญากับ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และมีโอกาสที่เจ้าตัวจะกลับไปเล่นให้ เซาธ์แฮมป์ตัน อีกรอบ หลังเคยอยู่ด้วยระหว่างปี 2010-2011

โอกาสอยู่ต่อ : ไม่มีทางแน่นอน

“คล็อปป์” ยัน ลิเวอร์พูลต้องการเก็บ “ฟีร์มิโน่” ไว้กับทีม

คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ออกมาประกาศว่าต้องการจะเก็บนักเตะคนสำคัญอย่าง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เอาไว้เก็บแม้จะสัญญาใกล้จะหมด

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ประกาศอีกครั้งว่า ต้องการเก็บ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ กองหน้าบราซิลเอาไว้กับทีมต่อไป หลัง ฟีร์มิโน่ กำลังจะหมดสัญญาในซัมเมอร์นี้

โดย”หงส์แดง” น่าจะไม่ต่อสัญญากับ นาบี เกอิต้า และอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ขณะที่ ฟีร์มิโน่ นั้นสถานการณ์แตกต่างออกไป ซึ่ง คล็อปป์ ยืนยันด้วยตัวเองว่ายังอยากเก็บฟีร์มิโน่เอาไว้กับสโมสรต่อไป ทั้งนี้ คาดว่า ลิเวอร์พูล กำลังเจรจาเพื่อยืดสัญญากับฟีร์มิโน่ ออกไปจนถึงปี 2025

ลิเวอร์พูล

กาตาร์ซื้อ"ลิเวอร์พูล" แน่ ยื่นข้อเสนอ ก.พ.นี้

กลุ่มทุนจากกาตาร์ แสดงความสนใจที่จะเทคโอเวอร์ ลิเวอร์พูล อย่างมุ่งมั่น รวมทั้งจัดแจงยื่นข้อเสนอซื้อสโมสรในเดือนกุมภาพันธ์นี้

เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป ประกาศพร้อมพิจารณาข้อเสนอเรื่องการลงทุนจากทุกฝ่าย ทั้งการร่วมมือ หรือการขายสโมสร ล่าสุด เดอะ เทเลกราฟ สื่อของอังกฤษ แถลงการณ์ว่า กลุ่มทุนจากกาตาร์ ได้ให้สนใจในการเทคโอเวอร์ลิเวอร์พูล อย่างเอาจริงเอาจัง แล้วก็คาดว่าจะมีการยื่นข้อเสนอเข้ามาในก.พ.นี้

ขณะที่ผู้รายงานข่าวชาวกาตาร์อย่าง ซาอีด อัลคาบี้ ได้ออกมาเปิดเปิดเผยว่า เดอะ แอนฟิลด์ ทอล์ค สื่อออนไลน์ท้องถิ่นถึงเรื่องนี้เหมือนกันว่า กาตาร์ กำลังให้ความสำคัญกับการซื้อสิทธิ์สโมสร ลิเวอร์พูลเป็นอันดับแรก

สนใจเรื่องนี้อย่างตั้งใจจริง แต่ตอนนี้ดีลยังไม่สำเร็จ มั่นใจว่าจะได้มองเห็นความคืบหน้าในอีกไม่กี่วันถัดจากนี้

เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป “FSG” ประกาศขายสโมสร ลิเวอร์พูล

เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป “FSG” เจ้าของสโมสรลิเวอร์พูล ประกาศขายสโมสรลิเวอร์พูล พร้อมเปิดทางให้กลุ่มทุนเจ้าอื่นเข้ามาเทคโอเวอร์
สื่อดังอย่าง”ดิ แอธเลติก” รายงานว่า FSG เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป ผู้ครอบครองสโมสรลิเวอร์พูล ต้องการที่จะขายทีมเเละเปิดให้ผู้สนใจเข้ามาหารือในเนื้อหาด้วยกัน เเต่ยังไม่มีความชัดเจนในประเด็นที่ว่าจะFSG ต้องการขายทีมทั้งหมดหรือขายเเค่หุ้นบางส่วน ซึ่งทีมหงส์แดงมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากตอนที่กลุ่ม FSG เข้ามาซื้อเมื่อปี 2553 ที่ใช้เงินเพียงแต่ 447 ล้านดอลลาร์ แต่ตอนนี้ทีมนี้มีมูลค่ามากถึง 4.45 พันล้านดอลลาร์

เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป (Fenway Sports Group) (FSG) เจ้าของสโมสรพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ว่า จะพิจารณาผู้ถือหุ้นรายใหม่ของลิเวอร์พูลที่ได้รับการแสดงความสนใจจากบุคคลที่สาม หลังมีการเปลี่ยนแปลงการเป็นเจ้าของและข่าวโคมลอยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการเป็นเจ้าของของสโมสร EPL เมื่อเร็วๆนี้

FSG มักได้รับความสนใจจากบุคคลที่สามซึ่งต้องการเป็นผู้ถือหุ้นในลิเวอร์พูล ก่อนหน้านี้ FSG เคยกล่าวไว้แล้วว่า ภายใต้ข้อตกลงและก็ข้อตกลงที่ถูกต้อง จะพิจารณาผู้ถือหุ้นรายใหม่ถ้าเกิดได้ผลประโยชน์ที่ดีที่สุดของลิเวอร์พูลในฐานะสโมสร
FSG คงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ต่อความสำเร็จของลิเวอร์พูล ทั้งในและก็นอกสนามต่อไป

ขณะที่สมาพันธ์ผู้สนับสนุน ลิเวอร์พูล Spirit of Shankly กล่าวว่าหวังว่าแฟน ๆ จะได้รับการขอคำแนะนำในการพูดคุยใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของสโมสรคนใหม่ ‘เราได้มองเห็นรายงานข่าวสารในวันนี้ว่า FSG เสนอขาย ลิเวอร์พูล เอฟซี แล้ว’
“Spirit of Shankly ได้ทำหนังสือไปยัง LFC เพื่อความชัดเจนรวมทั้งจะรอคำตอบก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นถัดไป’

ดังนี้ FSG ซึ่งเป็นเจ้าของเมเจอร์ลีกเบสบอล บอสตัน เรด ซ็อกส์ ได้เข้าซื้อหุ้นของสโมสรลิเวอร์พูล จากทอม ฮิคส์แล้วก็จอร์จ กิลเลตต์ เจ้าของเดิมในราคา 300 ล้านปอนด์ (343.56 ล้านดอลลาร์) ในปี 2553

อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ของ FSG ข้างต้น ซึ่งแถลงการณ์ไม่ได้ระบุไว้ก็คือ การไม่ยอมรับว่าสโมสรมีไว้ขาย หรือมีเอกสารตระเตรียมไว้ให้ผู้ซื้อที่ได้ไตร่ตรองแล้ว ซึ่งนั่นเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากเมื่อมีการรายงานข่าวสารในปี 2018 ว่า ชีค คาเลด บิน ซายด์ อัล-เนฮายัน ญาติของเจ้าของแมนเชสเตอร์ซิตี พร้อมที่จะเปิดตัวการเสนอซื้อหุ้นของสโมสรลิเวอร์พูลจำนวน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ FSG ตอบสนองด้วยแถลงการณ์ซึ่งยืนยันเมื่อวันจันทร์ว่าการลงทุนใหม่จะได้รับการพิจารณา “ภายใต้เงื่อนไขที่ใช่’ แต่ข้อความที่สำคัญคือ “‘FSG มีความชัดเจนรวมทั้งสอดคล้องกันว่าสโมสรไม่ได้มีไว้ขาย”

ซึ่งล่าสุดในพฤษภาคมที่ผ่านมา ทอม เวิร์นเนอร์ ประธาน ลิเวอร์พูล ได้บอกกับ ดิ แอธเลติก ว่า FSGยังคงมองว่าสโมสรเป็น “โครงการระยะยาว”ของพวกเขา

คล็อปป์ หงส์แดง
เฟนเวย์สปอร์ตส์กรุ๊ป ทีมบริหารผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จลิเวอร์พูล

ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ถ้าเกิดพูดถึงชื่อสโมสรฟุตบอล “ลิเวอร์พูล” เราจะเห็นแต่ภาพประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ซ้อนทับกับภาพผลงานที่กระท่อนกระแท่น สักครู่ดี เดี๋ยวร้าย ห่างไกลจากความสำเร็จมานาน ถึงแม้ว่าจะมีนักเตะฝีเท้าเลิศอย่าง สตีเวน เจอร์ราร์ด (Steven Gerrard) อยู่ในทีมก็ตาม
ตัดภาพมาที่ปัจจุบันนี้ ยักษ์ใหญ่ที่เคยหลับใหล ตัวนี้กำลังตื่นขึ้นมาอย่างเกรี้ยวกราด ซึ่งถ้าวัดกันตามผลงานแล้ว จะบอกว่าลิเวอร์พูลเป็นสโมสรฟุตบอลที่ดีที่สุดในเวลานี้ก็คงไม่ใช่เรื่องเกินเลยไปนัก เพราะเหตุว่าพวกเขาเพิ่งจะคว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 6 ของสโมสร ในฤดูกาลที่ผ่านมา และกำลังจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกที่คอยมาถึง 30 ปี

ตัวแปรที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ลิเวอร์พูลก้าวขึ้นมาในจุดนี้ได้ คือ การเข้ามาเข้ายึดครองสโมสรของกลุ่มเฟนเวย์สปอร์ตส์ (Fenway Sports Group หรือ FSG) บริษัทบริหารกิจการด้านกีฬาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 2010

ที่น่าสนใจ คือ บริษัทนี้ไม่ใช่กลุ่มที่มีเงินถุงเงินถังอย่าง โรมัน อับราโมวิช (Roman Abramovich) ผู้ครอบครองทีมเชลซี หรือ ชีค มันซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน (Mansour Bin Zayed Al Nahyan) ผู้ครอบครองแมนเชสเตอร์ซิตี้ แต่กลุ่มเฟนเวย์สปอร์ตส์ที่นำโดย จอห์น ดับเบิลยู. เฮนรี (John W. Henry) สามารถทำให้ลิเวอร์พูล สโมสรฟุตบอลที่เคยแทบจะล้มละลายด้วยหนี้สินราว 260 ล้านเหรียญสหรัฐ ฟื้นขึ้นมามีกำไร และก็มีมูลค่าในตอนนี้อยู่ที่ 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐ พวกเขาทำได้อย่างไร

Boston Red Sox Model

สิ่งที่กลุ่มเฟนเวย์สปอร์ตส์เคยทำสำเร็จมาก่อนหน้านั้น คือ การซื้อสโมสรเบสบอลทีมบอสตันเรดซอกซ์ (Boston Red Sox) ทีมดังในประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วก็ทำให้ทีมกลับมาชนะการแข่งขันเบสบอลเวิลด์ซีรีส์ หลังจากที่ห่างหายความสำเร็จไปนานถึง 86 ปี

เฟนเวย์สปอร์ตส์เห็นภาพเดียวกันนี้กับสโมสรลิเวอร์พูล นั่นก็คือความยิ่งใหญ่ที่เคยมีในอดีต และการรอคอย ความสำเร็จ แต่สิ่งที่ลิเวอร์พูลมีมากกว่า คือ มีสาวกผู้ติดตามหลายร้อยล้านคนทั้งโลก อีกทั้งพรีเมียร์ลีกยังเป็นลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลก ยอดผู้ชมในศึกแดงเดือดมีผู้ชมราว 1,000 ล้านคน มากกว่าผู้ชมการแข่งขันซูเปอร์โบว์ล (Super Bowl) ของประเทศสหรัฐอเมริกาถึง 9 เท่า

ถึงในตอนนั้น ลิเวอร์พูลจะอยู่ในช่วงตกต่ำด้วยผลงานในสนามและการบริหารงานนอกสนามของเจ้าของเดิม แต่สิ่งกลุ่มนี้กลับทำให้มูลค่าของสโมสรที่กลุ่มเฟนเวย์สปอร์ตส์ต้องจ่าย เหลือเพียงแค่ราว 326 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นมูลค่าที่เหมือนได้ไม่เมื่อเทียบกับต้นทุนทางประวัติศาสตร์และก็จำนวนผู้ติดตามที่สโมสรมี เฮนรีเคยส่งอีเมล์ถึงบรรดานักลงทุนว่า “ถ้าหากเราสามารถปิดดีลนี้ได้ ผมรู้สึกราวกับว่าพวกเรากำลังขโมยแฟรนไชส์นี้อยู่”

ด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ นี้ ทำให้กลุ่มเฟนเวย์สปอร์ตส์มั่นใจว่า พวกเขาจะสามารถใช้วิธีที่เคยทำสำเร็จมาแล้วกับบอสตันเรดซอกซ์ มาปรับใช้กับลิเวอร์พูลได้ เพิ่มเติมกับการที่ทางสมาพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ประกาศใช้กฎความยุติธรรมทางการเงิน (financial fair play) ในปี 2010 ยิ่งทำให้พวกเขาเชื่อว่าจะสามารถทำให้ลิเวอร์พูลต่อกรกับทีมที่มีเงินถุงเงินถังอย่างเชลซี แล้วก็แมนเชสเตอร์ซิตี้ หรือแม้กระทั่งคู่อริตลอดกาลอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่ครองความยิ่งใหญ่ในเวลานั้นได้ โดยการประยุกต์ใช้แนวความคิด “มันนี่บอล” (Moneyball)

เทคโอเวอร์ ลิเวอร์พูล

Moneyball การเสาะหาผู้เล่นที่เหมาะสมที่สุดในราคาที่ถูกที่สุด

แนวคิดมันนี่บอล มีจุดกำเนิดมาจากทีมเบสบอล โอ๊กแลนด์แอทเลติกส์ (Oakland Athletics) ในช่วงที่ทีมตกต่ำ งบประมาณมีจำกัด ไม่สามารถใช้เงินฟาดซื้อผู้เล่นระดับสูงที่ต้องการได้ บิลลี่ บีน (Billy Beane) ผู้จัดการทีมจึงใช้วิธีการนำสถิติของผู้เล่นแต่ละคนในด้านต่าง ๆ มาวิเคราะห์อย่างเป็นจริงเป็นจัง เพื่อเสาะหาผู้เล่นที่ทีมต้องการมากที่สุด แทนที่จะหาผู้เล่นที่เก่งที่สุด ทำให้พวกเขาสามารถซื้อผู้เล่นที่เหมาะสมกับทีมมาได้ในราคาที่ไม่สูง และแนวทางการนี้ก็ได้ผล จนกระทั่งทำให้ทีมมีสถิติชนะรวด 20 เกมในลีกได้

ศูนย์กีฬาทางน้ำ

“กกท.” ผุด “ศูนย์กีฬาทางน้ำ” ที่ทันสมัยสุดในอาเซียนรับศึกซีเกมส์ 2025

“กกท.” จัดเตรียมผุด ศูนย์กีฬาทางน้ำ (Aquatic Center) ทันสมัยที่สุดในอาเซียน เพื่อรองรับศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพในปี 2025 คาดใช้เวลาก่อสร้าง 30 เดือน

การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ตระเตรียมก่อสร้าง ศูนย์กีฬาทางน้ำ(Aquatic Center) ภายใน กกท. หัวหมาก เพื่อรองรับการแข่งขัน กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพ ในปี 2025 ซึ่งคาดใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 30 เดือน โดยโครงการสร้างศูนย์กีฬาทางน้ำ(Aquatic Center)

เป็นโครงการที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ประธานคณะกรรมการ โอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำ แห่งประเทศไทย กำหนดเป็นนโยบาย ให้เกิดขึ้น

พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล อุปนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนด จะเป็นผลดี ต่อนักกีฬาว่ายน้ำไทย ที่จะได้ฝึกฝนแล้วก็ ทดสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ในสระแข่งขันจริง

ก่อนการแข่งขันจริงล่วงหน้า 3 เดือน โดยศูนย์กีฬาทางน้ำแห่งนี้ จะใช้ระบบอัตโนมัติทั้งหมด ซึ่งถ้าหากก่อสร้างเสร็จ ก็จะนับได้ว่าเป็นศูนย์กีฬาทางน้ำ ที่ทันสมัยที่สุดในอาเซียน และยังสามารถ รองรับการจัดการแข่งขันกีฬา Aquatics ในระดับโลก ได้อีกด้วย

ศูนย์กีฬาทางน้ำ Aquatic Center

“ศูนย์กีฬาทางน้ำแห่งนี้ จะเป็นอาคารที่ตั้งอยู่ภายใน บริเวณ กกท. ขนาดกว้าง 100 เมตร ยาว 150 เมตร เป็นอาคาร 5 ชั้น สูง 40 เมตร มีสระว่ายน้ำ 3 สระ คือ สระจำนวน 10 ลู่ว่าย ยาว 50 เมตร กว้าง 25 เมตร ลึก 3 เมตร, สระกระโดด กว้าง 25 เมตร ยาว 25 เมตร ลึก 5 เมตร และสระซ้อม 50×25 เมตร ลึก 3 เมตร ที่สามารถปรับ ระดับความลึกได้ตามความเหมาะสม ของการใช้งาน”

“นอกนั้น ภายในอาคาร จะมีระบบควบคุมอุณหภูมิ แสงสว่าง การรักษาความปลอดภัย การจัดการแข่งขันด้วย ระบบอัตโนมัติทั้งในการปล่อยตัวและการจับเวลา แล้วก็ยังมีระบบ

ประหยัดพลังงานได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการที่ไทย มีศูนย์ฝึกหัดกีฬาทางน้ำแห่งนี้ นับได้ว่าเป็นแห่งแรกของประเทศ รวมทั้งนับว่าทันสมัยที่สุด ในภูมิภาคอาเซียนแล้ว ยังเป็นการเพิ่มโอกาส ให้ในการพัฒนาศักยภาพ ให้กับนักกีฬาไทยให้มากขึ้น รองรับการจัดการแข่งขันอีกทั้ง ในประเทศและต่างประเทศ ให้มีความเป็นมาตรฐาน ระดับนานาชาติ รวมทั้งการแสดง ความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ 2025 อีกทางหนึ่งด้วย” อุปนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำ กล่าว

กกท.ไฟเขียวสร้าง ศูนย์กีฬาทางน้ำ ครบวงจร

ทำเนียบรัฐบาล “พล.อ.ประวิตร” ประชุมกกท. ก่อตั้งสถาบัน มวยไทยแห่งชาติ ก่อสร้างศูนย์กีฬาทางน้ำครบวงจร รองรับการบริการ ประชาชนและการจัดการแข่งขัน ว่ายน้ำระดับนานาชาติ พร้อมย้ำใช้งบโปร่งใส วิเคราะห์ได้

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการ การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ณ ห้องประชุม คณะกรรมการโอลิมปิค แห่งประเทศไทย ผ่านระบบ VTC โดยที่ประชุมทราบ การใช้จ่ายงบประมาณ งบลงทุน แล้วก็เงินสำรอง กกท.ปีงบประมาณ 66 รายงานการควบคุม

และก็ การตรวจดูภายใน โดยที่ประชุมเห็นชอบ การปรับโครงสร้าง การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมีสาระสำคัญ ปรับระดับงาน กกท.ส่วนภูมิภาค เพิ่มก่อตั้งสถาบัน มวยไทยแห่งชาติ รวมทั้งเพิ่มเส้นทางความก้าว หน้าสายอาชีพ และเห็นชอบ โครงการออกแบบแล้วก็ ก่อสร้างศูนย์กีฬา ทางน้ำครบวงจร รองรับการบริการ ประชาชน รวมทั้งการจัดการแข่งขัน ว่ายน้ำระดับนานาชาติ

Aquatic Center

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การใช้จ่ายงบประมาณ ขอให้เป็นไปตามแผนงาน โดยให้พิจารณาและก็ ควบคุมภายใน ให้ถูกต้องแล้วก็โปร่งใส พร้อมด้วย ให้ความสำคัญ ขับเคลื่อนงาน ตามโครงสร้างใหม่ ให้มีประสิทธิภาพโดย มุ่งผลสำเร็จมากขึ้น สำหรับการออก แบบแล้วก็ก่อสร้างศูนย์กีฬาทางน้ำ ขอให้ประสานการสนับสนุนงบประมาณ จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง และก็ดำเนินการให้เป็น ไปตามมติที่ประชุม.-สำนักข่าวไทย

“กลุ่มจังหวัดอันดามัน” พร้อมจัด “ซีเกมส์ 2025” หวังตอบโจทย์สร้างมูลค่าเพิ่มให้ประเทศ กลุ่มจังหวัด อันดามันพร้อม จัดมหกรรม กีฬาซีเกมส์ 2025 หวังตอบโจทย์มิติ แห่งความพร้อมภายใต้ การสร้างมูลค่าเพิ่มฯให้ประเทศ

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ที่หารือด้านการสื่อสาร แล้วก็ ประชาสัมพันธ์ ที่ทำการการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดตรัง เปิดเปิดเผยว่า จากการที่กลุ่มจังหวัดอันดามัน

ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดตรัง กระบี่ จังหวัดพังงา รวมทั้งภูเก็ต ได้เสนอตัวขอเป็น เจ้าภาพจัดการแข่งขัน มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 รวมทั้งอาเชียน พาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ปี 2568 ในนามของประเทศไทยนั้น

นายณรงค์ โสภารัตน์

ล่าสุดได้รับรายงาน จาก นายณรงค์ โสภารัตน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย

จังหวัดตรังในฐานะกรรมการ แล้วก็เลขานุการจัดเตรียมการเสนอตัว เป็นเจ้าภาพว่า ขณะนี้ในส่วนของจังหวัดตรังแล้วก็จังหวัดต่าง ๆ ที่ได้เสนอตัวมีการประชุม เตรียมการต้อนรับ คณะอนุกรรมการพิจารณา จังหวัดผู้จัดงานจัดการแข่งขัน ที่จะลงไปตรวจความพร้อม ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจากการตระเตรียมการดังกล่าว ผู้อำนวยการสำนักงาน การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดตรังยืนยันว่ามาถึงวันนี้กลุ่มจังหวัดอันดามัน พร้อมที่จะนำเสนอยุทธศาสตร์ แล้วก็แผนงาน เพื่อเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ ต่อคณะอนุกรรมการ พิจารณาเมืองผู้จัดงานจัดการแข่งขัน ภายใต้ความพร้อมและจุดแข็งในทุกมิติ ภายใต้พลังร่วมของภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และก็ประชาชนทั่วๆไป

อาเซียนรับศึกซีเกมส์ 2025

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ กล่าวต่อไปว่าสำหรับการที่กลุ่ม จังหวัดอันดามัน ได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพมหกรรม ระดับนานาชาติ 2รายการในครั้งนี้นั้นจากการ ที่ตนเองได้ลงไป ในพื้นที่บางจังหวัด ของภาคใต้เมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่าประชาชน ในหลายพื้นที่เมื่อรู้ข่าวสารต่างตื่นตัวและก็สนใจ ที่จะร่วมเป็นเจ้าภาพ

จัดการแข่งขันที่เป็นแบบนี้ก็เพราะจังหวัดในภาคใต้ ยังไม่เคยมีโอกาส ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขัน ในเกมหรือมหกรรมกีฬา ระดับนานาชาติ อย่างซีเกมส์มาก่อน และที่น่าสนใจเมื่อกล่าวถึง กลุ่มจังหวัดอันดามัน ต้องยอมรับว่า จังหวัดในภูมิภาคนั้น เป็นหนึ่งในเมืองที่สามารถเป็นผู้แทนของประเทศไทย ที่มีความพร้อมสำหรับการ จัดการแข่งขันรวมทั้งเป็นไปตามมาตรฐาน ที่กำหนดภายใต้การรองรับ ของสนาม

แล้วก็ศูนย์กีฬา ที่พัก การคมนาคม ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และเหนืออื่นใด คือธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยว ที่ทั้งโลกต่างให้การยอมรับแล้วก็ต้องการ จะไปเยี่ยมเยี่ยมซึ่งตนเองเก็นว่าถ้าเกิดกลุ่มจังหวัด อันดามันได้รับเกียรติ ให้เป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขันมั่นใจว่ามหกรรมกีฬา ของชนชาติ ในอาเชียนปี 2025จะเป็นหนึ่ง ในมิติของกีฬาระดับนานาชาติ ที่จะตอบปัญหาและก็สร้างมูลค่า เพิ่มทางเศรษฐกิจแล้วก็สังคม ให้กับประเทศได้อย่างน่าสนใจยิ่ง

เมสซี่

เมสซี่ นำทัพอาร์เจนตินา ถึงมาตุภูมิหลังคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

เมสซี่ อาร์เจนตินา ทีมแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 เดินทางถึงบ้านเกิด พร้อมจัดแจงฉลองร่วมกับแฟนบอล

อาร์เจนตินา นำโดย ลิโอเนลเมสซี่ กัปตันทีม และผู้จัดการทีม ลิโอเนล สกาโลนี ได้เดินทางกลับมาถึง ประเทศอาร์เจนตินาที่เรียบร้อย ซึ่งดาวเตะวัย 35 ปี ได้ถือถ้วยแชมป์ลงมาจาก เครื่องบินด้วย ท่ามกลางแฟนบอลที่มารอต้อนรับกันอย่างล้นหลาม

ทั้งนี้รัฐบาลอาร์เจนตินา ได้ประกาศให้วันอังคารที่ 20 ธันวาคม เป็นวันหยุดพิเศษเพื่อให้ทุกคนได้ฉลองกับความสำเร็จ โดยขุนพล“ฟ้าขาว” จะมีคิวแห่งฉลองถ้วยแชมป์ที่กรุงบัวโนสไอเรสเวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

อาร์เจนตินาร่วมฉลอง

แข้ง”อาร์เจนตินา” ยกเลิกรถแห่ขึ้น ฮ.ฉลองแชมป์โลกแทน

นักฟุตบอลอาร์เจนติน่า ต้องฉลองแชมป์โลกกับแฟนบอล ทางเฮลิคอปเตอร์ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย หลังมีแฟนบอลพยายาม กระโดดขึ้นรถบัสของนักเตะ

กองทัพนักฟุตบอลอาร์เจนติน่า หอบถ้วยแชมป์โลก สมัยที่ 3 กลับถึงกรุงบัวโนสไอเรสเมื่อช่วงเช้าของวันอังคารที่ผ่านมา ก่อนที่จะเฉลิมฉลอง ไปยังสถานที่สำคัญต่าง ๆ ทั่วเมือง โดยมีแฟนบอล ออกมาร่วมฉลองความสำเร็จกันมากกว่า 4 ล้านคน ซึ่งรัฐบาลอาร์เจนติน่า ได้ประกาศวันหยุดพิเศษ เพื่อให้แฟนบอลได้มาร่วมเฉลิมฉลองตำแหน่งแชมป์โลกที่รอรอมาถึง 36 ปีด้วยกัน

เดิมทีระบุการ ของขบวนรถแห่จะไปจบที่ อนุสาวรีย์โอเบลิสก์โซ่ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลากรุงบัวโนสไอเรส แต่ก็ต้องถูกยกเลิกไป เนื่องด้วยปัญหาด้านความปลอดภัย

หลังมีแฟนบอลออก มาร่วมฉลองกันเป็นจำนวนมาก ตามท้องถนน ทำให้การจราจรถูกปิดกั้น นอกจากนี้ยังมีคลิปวิดีโอ ของผู้รายงานข่าวชาวอาร์เจนติน่า ที่แสดงให้เห็นแฟนบอลคนหนึ่งพยายาม โดดขึ้นเขารถบัสของนักฟุตบอล ขณะที่กำลังขับลอดใต้สะพาน ก่อนที่จะมีแฟนบอลอีกคนพยายามทำตาม ด้วยเหตุนี้ก็เลยทำให้สมาคมฟุตบอลอาร์เจนติน่า ตัดสินใจยกเลิกขบวนทันที แล้วให้นักเตะไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อทำการโบกมือทักทายฉลองกับแฟนบอลแทน

อาร์เจนตินา

ด้าน เคลาดิโอ ทาเปีย ประธานสมาคมฟุตบอลอาร์เจนติน่า ได้ขออภัยแฟนบอลที่ ไม่สามารถทักทายกับแฟนบอลทุกคนได้ตามปกติ โดยได้กล่าวว่า “หน่วยงานรักษาความปลอดภัย ไม่อนุญาตให้นักฟุตบอล ไปที่อนุสาวรีย์โอเบลิสก์โซ่ ต้องขออภัยเป็นพันครั้งในนามของผู้เล่นทุกคน เพราะเหตุว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ๆ ”

อาร์เจนตินา ประกาศวันหยุดแห่งชาติ หลังทีมคว้าแชมป์โลก

อาร์เจนตินา ประกาศวันหยุด เพิ่มเพื่อต้อนรับทีม “ฟ้าขาว” หลังคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

รัฐบาลอาร์เจนตินา ประกาศให้วันอังคารที่ 20 ธันวาคม 2565 นี้เป็นวันหยุดแห่งชาติ เพื่อต้อนรับการเดินทางกลับ ประเทศของขุนพล “ฟ้าขาว” ที่สามารถคว้าแชมป์โลก สมัยที่ 3 หลังจากชนะ ฝรั่งเศส ในการดวลจุดโทษ ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แล้วก็ถือเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรก นับตั่้งแต่ทำไว้ครั้งหลังสุดเมื่อปี 1986 ในยุคที่ ดีเอโก้ มาราโดน่า สวมบทกัปตันทีม

ทีมชาติอาร์เจนตินา ที่นำโดย ลิโอเนล สกาโลนี่ และก็กัปตันทีม ลิโอเนล เมสซี่จะเดินทางกลับสู่บ้านเกิด ในวันอังคารที่ 20 ธันวาคม โดยรัฐบาลจึงได้ประกาศให้วันอังคารนี้ เป็นวันหยุดแห่งชาติเพื่อประชาชน ได้ออกมารอต้อนรับนักฟุตบอลชุดประวัติศาสตร์ แล้วก็จะมีการพาเหรด แห่ถ้วยแชมป์ไปตามถนนหนทางในกรุงบัวโนส ไอเรส ก่อนหยุดฉลองอยู่ที่ โอเบลลิสโก อนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์ใจกลางเมือง

แฟนบอลอาร์เจนตินา

บราซิลยังซูฮก! เมสซี่ ถูกส่งเทียบเชิญพิมพ์รอยเท้าที่มาราคาน่า

ลิโอเนล เมสซี่กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา ได้รับเชิญจากหน่วยงาน ที่ควบคุมด้านกีฬาแห่งรัฐริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ให้เดินทางเพื่อมา พิมพ์รอยเท้าที่สนามมาราคาน่า หลังนักเตะพาบ้านเกิดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

สตาร์ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มีส่วนสำคัญอย่างมาก ที่นำกองทัพ “ฟ้าขาว” ชนะจุดโทษ ฝรั่งเศส 4-2 หลังตลอด 120 นาทีเสมอ 3-3 ในเกมนัดชิงแชมป์ ศึกเวิลด์ คัพ ที่ประเทศกาตาร์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ อาร์เจนตินา มีสถิติครอบครองโทรฟี้เวิลด์ คัพ 3 สมัยแล้ว

จากความสำเร็จของ เมสซี่ทำให้หน่วยงานที่ควบคุม ด้านกีฬาแห่งรัฐริโอ เดอ จาเนโร ได้ส่งเทียบเชิญนักเตะมาประทับรอยเท้าที่มาราคาน่า และนำเข้าสู่ “หอเกียรติยศ” หรือ “ฮอลล์ ออฟ เฟม” ที่อยู่ในสนาม หลังก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเคยเชิญมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนที่ “ฟ้าขาว” คว้าแชมป์โกปา อเมริกา เมื่อปี 2021

“เขาเป็นนักฟุตบอลที่ อยู่ในระดับสูงสุด ในหน้าประวัติศาสตร์ วงการฟุตบอล ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา แล้วก็ไม่มีอะไร ที่เหมาะสมไปกว่าการให้ มาราคาน่า ได้แสดงการสรรเสริญให้กับเขา เหนือสิ่งอื่นใด เมสซี่ เป็นอัจฉริยะแห่งวงการฟุตบอล” ซานโต๊ส

ดังนี้ถ้าหาก เมสซี่พิมพ์รอยเท้าตาม ที่หน่วยงานที่ดูแล ด้านกีฬาแห่งรัฐริโอ เดอ จาเนโร ร้องเขา นั่นจะทำให้เขาเข้าไปอยู่ในทำเนียบ หอเกียรติยศ เคียงข้างตำนานหลาย ๆ คนดังเช่นว่า เปเล่, การ์รินช่า, ริเวลีโน่,โรนัลโด้, ยูเซบิโอ, เดยัน เพ็ตโควิช และ ฟร้านซ์ เบ็คเคนเบาเออร์ ฯลฯ

แชมป์โลก

รอมานานแล้ว! แฟนบอล อาร์เจนฯปลดปล่อยอารมณ์หลังคว้า แชมป์โลก สำเร็จ

แฟนบอลในประเทศอาร์เจนตินา ออกมาร่วมเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่คว้า แชมป์โลก ของทัพ “ฟ้าขาว” กันแบบมืดฟ้ามัวดิน เมื่อพวกเขาผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ หลังจากรอคอยความสำเร็จใน ทัวร์นาเมนต์ นี้มานานกว่าสามทศวรรษ

อาร์เจนตินา แทบคว้าชัยชนะได้ในช่วงเวลาปกติเมื่อนำ ประเทศฝรั่งเศส 2-0 แต่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายแชมป์เก่า สามารถไล่ตีเสมอได้ 2-2 ส่งผลให้ต้องต่อเวลาพิเศษ แล้วก็ ลิโอเนล เมสซี่ ยิงประตูให้ทีมขึ้นนำ 3-2 แต่ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ซัดจุดโทษตีเสมอ 3-3

สุดท้ายต้องหาแชมป์ ด้วยการดวลจุดโทษรวมทั้งเป็นกองทัพ “ฟ้าขาว” ที่ยิงได้แม่นกว่าเอาชนะ ฝรั่งเศส 4-2 ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกฉบับตะวันออกกลาง แล้วก็เป็นแชมป์สมัยที่ 3 ของพวกเขาหลังจาก คอยมานานกว่า 36 ปี

ความสำเร็จในคราวนี้ทำให้ แฟนบอลใน อาร์เจนตินา หลายพันคนออกมาร่วมฉลอง กันยกใหญ่บริเวณท้องถนนหนทางในกรุงบูเอโนไอเรส โดยยิ่งไปกว่านั้นที่อนุสาวรีย์เดอะ โอเบริสก์

นอกจากนี้ยังมี แฟนจำนวนหนึ่ง ที่เดินทางไปฉลองความสำเร็จของประเทศ ถึงบริเวณด้านนอกบ้านเก่าของ ดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานกัปตันทีมผู้ล่วงลับ

ยังไม่หมดเท่านั้นสาวกทัพ “ฟ้าขาว” อีกหลายร้อยคนได้ร่วมแสดงความยินดีกับ อาร์เจนตินา ที่เมืองเนเปิ้ลส์ ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นดินแดนที่ “เสือเตี้ย” ได้เคยสร้างตำนานเอาไว้กับสโมสรนาโปลี

ฟ้าขาว อาร์เจนตินา

บทสรุปรางวัล เหมาะสมที่สุด แชมป์โลก 2022

สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ประกาศรางวัลดีที่สุดสาขาต่าง ๆ ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจบสิ้นนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 ในเกมการฟาดแข้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค.

ฟีฟ่า ประกาศรางวัลดีที่สุดออกมาทันทีหลังจบ ศึกนัดชิงดำซึ่งเป็นไปอย่างน่าเร้าใจชนิดเชิญชวนให้หัวใจวายโดย อาร์เจนติน่า เฉือนชนะ ฝรั่งเศส แชมป์เก่า ด้วยการดวลลูกโทษตัดสินหลังจาก ทั้งสองทีมเท่ากันอย่างดุเดือด 3-3 ในเวลา 120 นาที

สำหรับรางวัล โกลเด้น บอล หรือนักเตะดีประจำทัวร์นาเมนต์ตกเป็นของใคร ไปไม่ได้นอกเหนือจาก ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติ อาร์เจนติน่า ซึ่งประสบความสำเร็จได้ แชมป์โลก ไปครองเป็นครั้งแรกในชีวิต แล้วก็จะเป็นการปิดฉาก การรับใช้ชาติอย่างยิ่งใหญ่จากที่เจ้าตัวเคยยืนยันว่า ฟุตบอลโลก ที่ กาตาร์ จะเป็นการลงเล่นรายการนี้ครั้งสุดท้ายในอาชีพของเขา

แฟนบอลอาร์เจนตินา

จากความสำเร็จดังกล่าว ส่งผลให้ เมสซี่

เป็นนักฟุตบอลคนเดียวที่ได้รางวัล ชิ้นนี้สองทีนับตั้งแต่มี การแจกรางวัลเมื่อปี 1982 โดยดาวเตะวัย 35 ปีเคยประสบความสำเร็จมาแล้วหนึ่งครั้งในปี 2014

ส่วนรางวัลนักเตะ ดาวรุ่งดีเยี่ยมที่สุดประจำทัวร์นาเมนต์ได้แก่ เอ็นโซ เฟร์นานเดซ กองกลางวัย 21 ปีของทีม ฟ้าขาว ซึ่งโชว์ฟอร์มในรายการนี้ ได้อย่างน่าเฝ้ามอง และก็ตกเป็นข่าวได้รับการจับจ้องจากหลายทีมยักษ์ที่หวังคว้าเขาไปจากทีม เบนฟิก้า

ขณะเดียวกัน ขุนพลทีม ฟ้าขาว ประสบความสำเร็จอีกเช่นเดียวกันสำหร้บรางวัล โกลเด้น โกลฟ หรือนายทวารเยี่ยมยอดประจำทัวร์นาเมนต์ซึ่งตกเป็นของ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ มือกาวทีม แอสตัน วิลล่า ซึ่งเซฟลูกโทษพาทีมคว้า แชมป์โลก ไปครอง

แฟนบอลฟ้าขาว

ด้าน คิลิยัน เอ็มบัปเป้ กองหน้าทีมชาติ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งซัดแฮททริคได้ในนัดชิงแชมป์เอารางวัล โกลเด้น บุบท หรือดาวซัลโวสูงสุดของทัวร์นาเมนต์ 8 ประตูจาก 7 นัด ทั้งยังเจ้าตัวยังทำได้ 2 แอสซิสต์ด้วย

ขณะเดียวกัน มีการเปิดเผยว่า ฟุตบอลโลก 2022 จบลงโดยมีการยิงประตูกันไปทั้งสิ้น 172 ประตูซึ่งนับว่าเป็นการทำลายสถิติจากที่การฟาดแข้งปี 1998 แล้วก็ปี 2014 เคยมีการพังประตูรวมกันทั้งสิ้น 171 ประตูเท่ากัน

ทั้งนี้ รางวัลอื่น ๆ อาทิ ประตูดีเลิศประจำทัวร์นาเมนต์จะมีการประกาศในภายหลังเพราะว่า ฟีฟ่า เปิดโอกาสให้แฟนบอล ร่วมโหวตเช่นเดียวกับรางวัล ทีมเอนเตอร์เทนดีเยี่ยมที่สุด ขณะที่รางวัล ฟีฟ่า แฟร์เพลย์ โทรฟี่ รวมทั้ง ออล สตาร์ ทีม จะมีการประกาศ ในเวลาต่อมาด้วยเหมือนกันด้วยเหตุว่าต้องรอการตรวจเช็กจากคณะกรรมการของ ฟีฟ่า เสียก่อน

เจ็ตสกี

มหาอำนาจ. กีฬาความเร็วทางน้ำโลก เจ็ตสกี

ไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริง..แต่อย่างใด ถ้าเกิดจะพูดว่า เจ็ตสกี มหาอำนาจผู้คุมแบรนด์กีฬาความเร็วบนบกของโลก ในขณะนี้

คือกลุ่มลิเบอร์ตี้ของสหรัฐอเมริกา ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แบรนด์ “ฟอร์มูลาวัน” หรือ “โมโตจีพี” ที่ผู้จัดทรงอิทธิพล คือ ดอร์นาสปอร์ต แห่งประเทศสเปน

แต่ที่ไม่น่าเชื่อกว่า…คือ “ไทย” ยึดมหาอำนาจกีฬาความเร็วทางน้ำของโลก… ได้สำเร็จ!!!

เราใช้เวลา 4 ปี ฝ่าสร้างความแข็งแกร่งบนเวทีโลก จนกระทั่งสมาคมเจ็ตสกีนานาชาติ IJSBA สมาคมเจ็ตสกียุโรป EJSBA

ต้องเปิดทางให้ไทยแลนด์ของเรา ขึ้นเป็นเจ้าของ “ทัวร์นาเมนต์เจ็ตสกีเก็บคะแนนชิงแชมป์โลก” WGP#1 Waterjet World Series

ความสำเร็จเริ่มอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน

“แบรนด์กีฬาไทย 100%” ได้สร้างความเชื่อใจจนกระทั่ง นักกีฬามือหนึ่งทุกคน และทีมนักกีฬาทั้งโลก 2,000-3,000 คน

ต้องยอมลงทุนด้วย ค่าใช้จ่ายตัวเองทั้งหมด ทีมละเป็นล้านถึง หลายล้านบาท เพื่อเดินทางเข้ามาแข่งชิงแชมป์ที่ประเทศไทย

หลังจากที่แข่งขันเก็บคะแนนที่ทวีปยุโรป 1 สนาม และทวีปอเมริกา 1 สนาม จนกระทั่งมาถึงรายการสุดท้ายของปี ที่มาแข่งประเทศไทยนี้

มีชื่อว่า WGP#1 World Cup 2022 จัดแข่ง ระหว่าง 14-18 ธันวาคม 2565 นี้ ณ ชายหาดจอมเทียน เมืองพัทยา

แบ่งเป็นการชิงแชมป์โลก ระดับสมัครเล่น (World Cup – Amateur) ในวันพุธที่ 14 กับ วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคมและการชิงแชมป์โลก ระดับอาชีพ (World Cup – Pro) แข่งขันวันศุกร์ที่ 16 และอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม

สมาคมเจ็ตสกียุโรป EJSBA

ซึ่งแฟน ๆ กีฬา สามารถติดตามตารางแข่งขันได้บนเว็บไซด์ www.jetski-worldcup.com  แต่พลานุภาพ ของทัวร์นาเมนต์นี้ มันพึ่งเริ่ม ปีนี้ปีเดียวเท่านั้น

World Class Content ของรายการนี้ กระจายตัวไปสร้างชื่อให้ประเทศไทย ออกอากาศใน 121 ประเทศทั้งโลก!!

ยิ่งกว่านั้นในวันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม รอบชิงแชมป์โปร เวลา 14.00-16.00 น. จะมีการถ่ายทอดสด ผ่านดาวเทียม ไปยังสถานีโทรทัศน์ทั้งโลก บนเครือข่ายการรับชม 800 ล้านครัวเรือน!!

บอกได้เต็มปากว่า เป็นแบรนด์ กีฬาลิขสิทธิ์ไทย 100% ชนิดแรก (ที่ไม่ใช่มวยไทย) ที่ทำการตลาดสถานีโทรทัศน์ ทั้งโลกได้แบบนี้

ย้ำความเจ๋งด้วยบอสใหญ่แห่งคาวาซากิ ญี่ปุ่น ยกทีมมาชมอีเวนต์ ต่อด้วยผู้บริหารเมืองเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เดินทางมานัดหารือ

สมาคมเจ็ตสกีญี่ปุ่นขอเข้ามาศึกษางาน และก็ตามด้วยคณะ จากประเทศกัมพูชา ในฐานะผู้จัดซีเกมส์ 2023

มหาอำนาจกีฬาความเร็วทางน้ำของโลก ที่ครองตำแหน่งโดยประเทศไทย! ผลงานสำเร็จภายในเพียงแค่ 4 ปี

โดยการทำงานร่วมกันของ WGP#1 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง

เจ็ตสกี เติบโต

ผมมีโอกาสได้ขอสัมภาษณ์แผนการพัฒนากีฬา “ภาพใหญ่” ของกีฬาเจ็ตสกี จากคีย์แมน ผู้นำในการสร้างแบรนด์ทัวร์นาเมนต์กีฬาเจ็ตสกีไทย WGP#1 ขึ้นเป็นที่ 1 ของโลก กับ “เดรค” ปริเขต สืบสหการ

คุณปริเขตเล่าให้ฟังว่า วันนี้ WGP#1 ที่พัฒนามา 26 ปี ได้ก้าวขึ้นสู่การเป็นองค์กรโลกอย่างเป็นทางการแล้ว คือแบรนด์ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ “ทัวร์นาเมนต์เก็บคะแนนชิงแชมป์โลก” อย่างเป็นทางการในขณะนี้ ภายใต้ความร่วมมือ และใช้กติกาของ สมาคมเจ็ตสกีโลก IJSBA สหรัฐอเมริกา ในชื่อ WGP#1 World Series รวมทั้ง WGP#1 World Cup ทัวร์นาเมนต์แกรนด์สแลม รายการเดี่ยว ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เป็นสนามชิงแชมป์ จัดที่ประเทศไทย

WGP#1 ทำงานในด้านนโยบายสนับสนุน สมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยด้วย แต่แยก หน้าที่กันอย่างชัดเจน โดยส่วนของ WGP#1 สร้างชื่อในด้านทัวร์นาเมนต์กีฬา สร้าง Soft Power การเชื่อใจทัวร์นาเมนต์ กีฬาไทย ในระดับนานาชาติเท่านั้น ด้านสมาคมฯ จะทำหน้าที่พัฒนาผลงานของนักกีฬาไทยทั้งหมด ซึ่งงานกำลังขยายตัวอย่างมาก

สมาคมเจ็ตสกีนานาชาติ IJSBA

สมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย มีพื้นฐานการเฟ้นหานักกีฬาแชมป์ประเทศไทยในแต่ละปี และมีเป้าหมายสร้างผลงานกีฬาแห่งความเป็นเลิศมากมาย ดังเช่น การส่งนักกีฬาไปสร้างชื่อที่สหรัฐ อเมริกา ในยุโรป หรือเวิลด์คัพที่ประเทศไทยก็ตาม ซึ่งเป็นตัวชี้วัด ผลงานนักกีฬาไทยในเวทีโลก

กลุ่มการร่วมสร้างชื่อชาติใน มหกรรมกีฬานานาชาติ ดังเช่น การส่งนักกีฬาไปช่วยชาติไทยคว้าเหรียญทอง และช่วยสร้างผลงาน ให้กับประเทศไทย ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ เอเชียนบีชเกมส์ เป็นส่วนที่ประสบความสำเร็จอย่างตลอด และเรากำลังหวังที่จะช่วยสร้างผลงาน คว้าเหรียญทองให้กับประเทศไทย ในการแข่งขันซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศ ไทยเป็นเจ้าภาพ ก็หวังว่าประเทศไทยจะใส่การแข่งขันเจ็ตสกีด้วย

กลุ่มมหกรรมกีฬา ภายในประเทศ กีฬาเจ็ตสกีใส่ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ และกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ซึ่งจุดนี้รู้ดีว่ากีฬาเจ็ตสกีจะไม่ใช่เพียงแค่ร่วมในกิจกรรม แต่ได้รับคำสั่งการจาก นายกสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย สนิท วรปัญญา

ให้ไปช่วยเสริมสร้างสีสัน ให้ประชาชนสนใจเข้าชมมหกรรมกีฬา เจ็ตสกี อีกมาก

พอฟังคุณปริเขตที่ขอคำแนะนำสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย เล่าแผนงานแล้วหลังจากนั้นก็คลายสงสัย ทิศทางพัฒนากีฬาในด้านต่าง ๆ นั้นชัดเจนดีเหลือเกิน ทำให้เกิดการกระเทาะความคิดว่า เพราะเหตุใดกีฬาเจ็ตสกีถึงขนาดไปถูกบรรจุในมหกรรมอันยิ่งใหญ่ของเอเชีย อย่างเอเชียนเกมส์ได้ ก็เนื่องจากว่าความมีสีสันและการเติบโตของผู้ชมอย่างน่าสนใจ

เมื่อกลับมา เกมในประเทศ ดังเช่น กีฬาแห่งชาติ และกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ก็ราวกับมาอยู่บ้านเขาแล้วไม่นิ่งดูดาย มีวิสัยทัศน์ที่จะไปร่วมมือช่วยเพิ่มให้ประชาชนสนใจเกมนั้นๆอีก

ชัดเจน!!ว่าเพราะอะไรกีฬานี้ จึงพัฒนาอย่างมากจริง ๆ .